วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ความรู้ทั่วไปอิฐมวลเบา

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอิฐมวลเบา หรือ คอนกรีตมวลเบา

 อิฐมวลเบา (Autoclaved Aerated Concrete : AAC) ผลิตจากส่วนผสมของปูนปอร์ตแลนด์ Type 1 ทราย ปูนขาว ยิบซั่ม และผงอลูมิเนียมที่ใช้เพิ่มฟองอากาศโดยการผสมสูตรที่เหมาะสม และผ่านการ อบด้วยไอน้ำแรงดันสูงทำให้มีฟองอากาศมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ของปริมาตร จึงทำให้วัสดุอิฐมวลเบา เบากว่าน้ำ (ลอยน้ำ) โดยมีน้ำหนักระหว่าง 600 – 700 กก./ลบ.ม. เทียบกับคอนกรีตทั้วไปที่ 2,400 กก./ลบ.ม. และอิฐมอญที่ 1350 กก./ลบ.ม. ความเบาของวัสดุทำให้อาคารเบาลงประหยัดค่าก่อสร้างโครงสร้างเสาคานและฐานรากความเบาที่มาจากการสอดแทรกของฟองอากาศถึง 75 % ทำให้อิฐมวลเบามีคุณสมบัติดีเด่นเพิ่มเติม คือ

• เป็นฉนวนกันความร้อน ผนังที่ก่อด้วย อิฐมวลเบาสามารถกันความร้อนได้ดีกว่าผนังที่ก่อด้วยอิฐมอญถึง 2.5 เท่าจึงไม่สะสมความร้อนในตอนกลางวันเพื่อคายออกในตอนกลางคืน

• ไม่ติดไฟและสามารถทนไฟที่ 1,100 องศาเซลเซียส ได้นาน 4 ชั่วโมงสำหรับผนังหนา 7.5 ซม. ในขณะที่ผนังอิฐมอญทนได้ 2 ซม.

• สามารถดูดซับเสียงได้ดีและป้องกันการส่งผ่านเสียงได้ดีกว่าวัสดุมวลเบาทั่วไป

• ผนังหนา 10 ซม. สามารถกั้นเสียงได้ถึง 40 เดซิเบล ในประเภทวัสดุก่อสร้างที่ใช้กันทั่วไป ผนังเป็นส่วนสำคัญของอาคารที่มีน้ำหนักมากที่สุด แต้ใช้ประโยชน์ในการรับแรงน้อยที่สุดในอาคารที่พักอาศัยที่มีการกั้นห้องมากน้ำหนักผนังอาจสูงถึง 40 % ของน้ำหนักอาคาร ดังนั้นผู้ออกแบบอาคารจึงต้องการหาวัสดุที่มีน้ำหนักเบาเพื่อนำมาใช้งานให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการกั้นผนัง

• แข็งแรงเพียงพอที่จะกั้นภายในกับภายนอก

• กันความร้อน / ความเย็นจากภายนอก

• ไม่เป็นพิษภัยต่อผู้อาศัย

• มีความเรียบ สวยงาม คงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ


ขอบคุณที่มา : สภาวิศวกร






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น